นักวิจัย มวล.ร่วมผลักดันข้าวอินทรีย์กลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ บ้านอ่าวเคียน ขึ้นทะเบียน อย.สำเร็จเป็นเจ้าแรกของ จ.นครศรีฯ พร้อมยกระดับมาตรฐานการผลิตสู่ระดับสากล มุ่งสู่ตลาดข้าวพรีเมี่ยม

Walailak University Assists Ao Kian Organic Rice Community Enterprise in Obtaining FDA Rice Registration, Expanding Their Products to Premium Market

คณะนักวิจัย ม.วลัยลักษณ์ ร่วมผลักดันข้าวปลอดสารพิษจากการทำเกษตรอินทรีย์ ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตข้าวอินทรีย์บ้านอ่าวเคียน อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช จนสามารถยื่นขอรับมาตรฐาน อย. สำเร็จเป็นเจ้าแรกของจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมยกระดับโรงสีข้าวชุมชนให้เข้าสู่กระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานระดับสากล เพื่อผลิตข้าวป้อนตลาดคนรักสุขภาพ

รองศาสตราจารย์ ดร.นฤมล มาแทน หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมน้ำมันหอมระเหยและสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ และอาจารย์ประจำสำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร ม.วลัยลักษณ์ เปิดเผยว่า ตนพร้อมคณะนักวิจัย “ชุดโครงการการพัฒนาข้าวกล้องและผลิตภัณฑ์จากข้าวกล้องคุณภาพสูงสำหรับตลาดพรีเมียม” ได้ลงพื้นที่ให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิตข้าวอินทรีย์และพัฒนาผลิตภัณฑ์จากข้าวในโรงสีข้าวชุมชน กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตข้าวอินทรีย์บ้านอ่าวเคียน อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ให้มีมาตรฐานการผลิตระดับสากล Good Manufacturing Practice (GMP) จนสามารถขอขึ้นทะเบียน อย.ข้าวได้สำเร็จเป็นเจ้าแรกของจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยวิสาหกิจชุมชนผลิตข้าวอินทรีย์บ้านอ่าวเคียน เกิดจากการรวมตัวของชาวบ้านกว่า 50 ครัวเรือนในพื้นที่อำเภอปากพนังที่มีอาชีพทำนา โดยเน้นการปลูกข้าวแบบเกษตรอินทรีย์และจัดตั้งเป็นโรงสีชุมชนขึ้นเพื่อลดต้นทุนการสีข้าว ซึ่งจากการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีดังกล่าว ทำให้กระบวนการผลิตข้าวของชุมชนในทุกขั้นตอนได้มาตรฐานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระบวนการเก็บรักษาข้าว โดยใช้เทคโนโลยีการเก็บรักษาข้าวเปลือกและข้าวกล้องให้ปลอดภัยจากเชื้อราโดยใช้บรรจุภัณฑ์ควบคุมความชื้น และมีขั้นตอนการกำจัดไข่มอดโดยใช้คลื่นวิทยุ ซึ่งเป็นการผลิตข้าวที่ไม่ใช้สารเคมี ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่าจะได้บริโภคข้าวที่ปลอดภัยจากสารเคมี ลดการปนเปื้อนจากมอดแมลงและสารกำจัดเชื้อราที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยขณะนี้ทางกลุ่มมีการผลิตข้าวที่พร้อมขึ้นทะเบียน อย.แล้ว ได้แก่ ข้าวหอมปทุม ข้าวหอมนิล ข้าวสังข์หยดและข้าวไรซ์เบอร์รี่

รองศาสตราจารย์ ดร.นฤมล มาแทน กล่าวอีกว่า จากการศึกษาวิจัยของนักวิจัยในศูนย์ความเป็นเลิศฯพบว่าข้าวกล้องสายพันธุ์ท้องถิ่นหลายสายพันธุ์เมื่อนำไปวิเคราะห์หาสารออกฤทธิ์ พบว่าข้าวท้องถิ่นหลายสายพันธุ์มีแนวโน้มที่สามารถนำมาผลิตเป็นข้าวกล้องเพื่อสุขภาพได้ เนื่องจากพบสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพอยู่หลายชนิด อีกทั้งยังพบว่าในข้าวมีโปรตีนในปริมาณสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ข้าวไข่มดริ้น” ซึ่งเป็นข้าวสายพันธุ์พื้นเมืองของจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีโปรตีนชนิดทนต่อการแปรรูปสูงถึง 10% เมื่อเทียบกับข้าวท้องถิ่นสุขภาพสายพันธุ์อื่น ๆ ที่ให้โปรตีนอยู่ระหว่าง 3-7% เท่านั้น เมื่อนำไปหุงสุกหรือผ่านกระบวนการแปรรูปด้วยวิธีต่าง ๆ ด้วยโปรตีนในข้าวไข่มดริ้นที่ทนต่อการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ข้าวต่างๆ จึงสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลาย อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) เกลือแร่ พร้อมวิตามินหลากหลายชนิดที่ช่วยเรื่องสุขภาพ บำรุงระบบประสาทและสมอง โดยนักวิจัยคาดว่าจะผลักดันให้ชุมชนได้ปลูกข้าวสายพันธุ์นี้ให้มากขึ้นและผลักดันให้ได้ขึ้นทะเบียน อย.เป็นสายพันธุ์ต่อไป เพื่อนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ข้าวเพื่อสุขภาพมุ่งสู่ตลาดพรีเมียมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เป็นการเพิ่มมูลค่าข้าวให้แก่เกษตรกรอีกด้วย
     
“ขอขอบคุณคณะนักวิจัยโครงการการพัฒนาข้าวกล้องและผลิตภัณฑ์จากข้าวกล้องคุณภาพสูงสำหรับตลาดพรีเมียม ม.วลัยลักษณ์ ประกอบด้วย  ดร.กาญน์นัฐฐา ไชยศรียา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ผานิตย์ คุ้มฮิ้น ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อัปษร สัตยาคม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ทนง เอี่ยวศิริ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุเมธี ส่งเสมอ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สิริวัจนา แก้วผนึก และขอบคุณสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ผู้สนับสนุนทุนวิจัยในครั้งนี้” รองศาสตราจารย์ ดร.นฤมล กล่าวในตอนท้าย
     
ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถสั่งซื้อข้าวอินทรีย์ปลอดสารหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณสุชาติ เทียมดี หรือ คุณอารี กองทอง วิสาหกิจชุมชนผลิตข้าวอินทรีย์บ้านอ่าวเคียน หมู่ที่ 7 ต.ชะเมา อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช โทร. 089-455-3398

แหล่งข่าว : https://www.wu.ac.th/th/news/23075/นักวิจัย-มวล-ร่วมผลักดันข้าวอินทรีย์กลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ-บ้านอ่าวเคียน-ขึ้นทะเบีย

Facebook Comments Box