วันที่ 6 สิงหาคม 2566 ณ ห้องพนมเมธี ชั้น 5 สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนครพนม สภามหาวิทยาลัยนครพนม ได้จัดประชุมสภามหาวิทยาลัยนครพนม ครั้งที่ 8/2566 เพื่อร่วมกันพิจารณาเลือกผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม โดยกำหนดให้ผู้เข้าสู่กระบวนการสรรหาอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม ได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อสภามหาวิทยาลัย มีผู้เข้าสู่ขั้นตอนการแสดงวิสัยทัศน์ จำนวน 2 ท่าน ประกอบด้วย ศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย ศุภดิษฐ์ และ ศาสตราจารย์ ดร.อภิรัฐ ศิริธราธิวัตร โดยเมื่อทั้งสองท่านได้แสดงวิสัยทัศน์แล้ว ศาสตราจารย์ ดร.อภิรัฐ ศิริธราธิวัตร ได้แสดงเจตนารมณ์ขอถอนตัวไม่เข้ารับการคัดเลือกผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดี ต่อมาที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยนครพนม ได้มีมติพิจารณาคัดเลือก ศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย ศุภดิษฐ์ เป็นผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม โดยขั้นตอนต่อไปจะมีการนำรายชื่อเสนอกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป

ศ.ดร.นพ.กระแส ชนะวงศ์ นายกสภามหาวิทยาลัยนครพนม เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า “กระบวนการสรรหาอธิการบดีของมหาวิทยาลัยนครพนมนั้นมีความโปร่งใส ถูกต้อง เหมาะสม ดำเนินงานตามระเบียบกฎหมายทุกขั้นตอน ตามหลักธรรมาภิบาล และหลังจากที่ได้ฟังการแสดงวิสัยทัศน์ของทั้งสองท่านแล้ว ที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยได้มีมติเลือก ศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย ศุภดิษฐ์ เป็นผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม ซึ่งศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย ศุภดิษฐ์ นั้นมีความโดดเด่นทางด้านวิชาการ เป็นคนดี เพราะได้ตรวจสอบคุณสมบัติของท่านตามกระบวนการสรรหาแล้ว และมีภาวะผู้นำ โดยสภามหาวิทยาลัยจะมอบหมายให้ ศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย ศุภดิษฐ์ เข้ามาดำรงตำแหน่งรักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม หลังจากที่อาจารย์สมยศ สีแสนซุย รักษาราชการแทนอธิการบดีคนปัจจุบันหมดวาระดำรงตำแหน่งในวันที่ 10 กันยายน 2566 เพื่อรอกระบวนการเสนอชื่อกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป”

ศ.ดร.ธวัชชัย ศุภดิษฐ์ กล่าวเปิดใจหลังทราบมติที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยว่า “ขอขอบพระคุณสภามหาวิทยาลัย และคณะกรรมการสรรหาอธิการบดีมหาวิทยาลัย ที่ให้ความไว้วางใจให้ทำงานเป็นรักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม ตามกระบวนการสรรหาในวันนี้ และหลังจากนี้จะเข้ามาแสดงวิสัยทัศน์ นำเสนอแผนพัฒนามหาวิทยาลัยต่อประชาคมมหาวิทยาลัยนครพนมอีกครั้ง เพื่อที่จะทำงานร่วมกับประชาคมมหาวิทยาลัยนครพนมทั้งภายในและภายนอก ขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยให้ไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง”